เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของโครงหลังคากันสาดที่ทำจาก เหล็ก สแตนเลส ไม้จริงและไม้เทียม
ผู้เขียนได้เขียนเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของหลังคากันสาดชนิดต่างๆไว้คราวนีัเขียนจะมาเปรียบเทียบโครงหลังคาที่ใช้ทำกันสาดหน้าบ้าน กันว่ามีวัสดุอะไรบ้างแล้วราคาความทนทานแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน
ก่อนอื่นต้องบอกนะครับว่ากันสาดรอบบ้านจะประกอบไปด้วยตัวหลังคาและโครงหลังคาซึ่งราคาของการสาดก็จะแปรผันไปตาม โครงหลังคาด้วย มาดูกันว่าวัสดุที่ใช้ทำโครงหลังคามีอะไรบ้าง
โครงเหล็กรูปพรรณเป็นที่นิยมมากในการทำโครงหลังคาอีกทั้งยังราคาถูกอีกด้วยซึ่งในปัจจุบันโครงหลังคาเหล็ก ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ทั่วไปในท้องตลาด
ข้อดีข้อเสียของโครงหลังคากันสาดเหล็กรูปพรรณ
ข้อดี ราคาถูกติดตั้งง่ายกว่าและสามารถทำได้หลายรูปแบบ
ข้อเสีย เหล็กถ้าชุบสีไม่ดีก็จะเกิดสนิมขึ้นมาได้ทำให้โเกิดความเสียหายกับโครงหลังคาได้
โครงหลังคากันสาด สแตนเลส

ก็คือการนำเหล็กสแตนเลสมาทำเป็นโครงหลังคานี่เองซึ่งก็เป็นโครงหลังคาที่ได้รับความนิยมมากๆส่วนใหญ่ โครงหลังคาสแตนเลสก็จะโชว์โครงหลังคาไปด้วยเนื่องจากแต่เลทสวยงามเป็นมันวาวและไม่เป็นสนิม (จริงหรอ)
ข้อดีสวยติดตั้งง่ายและสามารถทำได้หลายรูปแบบ
ข้อเสียมีราคาสูงกว่าโครงเหล็กมากพอสมควรหากใช้สแตนเลสเกรดไม่ดีก็สามารถทำให้เกิดสนิมได้อย่าคิด ว่าสแตนเลสจะไม่เกิดสนิมนะครับ
โครงหลังคากันสาด ไม้เทียม
ส่วนใหญ่โครงไม้เทียม จะทำจากไม้ผสมกับพลาสติกหรือที่เรียกกันว่าพลาสวูด หน้าตาเหมือนไม้จริงมาก
โดยไม้เทียมนี้ส่วนใหญ่ก็จะทำเป็นโครงโชว์ตัวไม้สวยงามกันเลยทีเดียวซึ่งไม่ต่างอะไรมากมากกับโครงไม้จริง
ข้อดีข้อเสีย
ข้อดีก็คือ เหมือนไม้ และแข็งแรงกว่าไม้
ข้อเสียผู้เขียนคิดว่าราคาน่าจะสูงพอสมควร อาจจะสูงกว่าโครงกันสาด สแตนเลสซะด้วยซ้ำ
โครงหลังคากันสาด ไม้จริง(ไม้เนื้อแข็ง)
ไม้จริงน่าจะเป็นโครงระแนงไม้ที่สวยที่สุดก็ว่าได้ เพราะด้วยความเป็นไม้ ใช่ครับ แค่มีไม้ทุกอย่างก็ดูสวยแบบไรเหตุผล อันนี้ ผู้เขียนเอาความรู้สึกตัวเองเป็นที่ตั้งนะครับ อิอิ
ข้อดี สวยครับ อย่างเดียว
ข้อเสีย ราคาก็แพงนะ ถ้าเป็นไม้สักไม้มะค่า ความคงทนน้อยกว่า วัสดุชนิดอื่นๆ
สรุป ผู้เขียนแนะนำให้ใช้ โครงหลังคากันสาด ที่เป็นโหละหรือวัสดุผสมนะครับ พวกไม้มีข้อเสียคือไม่ค่อยคงทนและราคาก็ไม่ถูก
** ผู้เขียนขอขอบคุณผู้ที่เข้ามาอ่านทุกๆท่านที่เข้าเข้ามาติชม นะครับ ทางผู้เขียนต้องขออภัยถ้าหากบางทีให้ข้อมูลไม่ถูกใจสักเท่าไร เพราะบางทีเขียนจากประสบการณ์จริงๆจึงไม่มีผลทดลองหรือค่าตัวเลขมาพิสูตรได้ ผู้เขียนกราบขออภัยนะครับ